อัสซุส-ดูพอดขยับ ชิงผู้นำตลาดพีดีเอ

สองค่ายผู้ผลิตพีดีเอโฟน “อัสซุส-ดูพอด” ขยับเปิดตัวสินค้าใหม่ลงแข่งขันในตลาดช่วงใกล้ไตรมาสสุดท้ายของปี ชูจุดขายชิงความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่ง อัสซุส ใช้แนวคิด“อัสซุส โมบิลิตี้” ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ขณะที่ ดูพอด ใช้ “เอ็นจอย โมบิลิตี้” โชว์อิสระการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัด เป็นจุดขาย คาดปีหน้าตัวเลขเติบโตขยับเพิ่มเป็น 50% จากปีนี้เติบโต 37%

พรเทพ วัชรอำนวย ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อัสซุสเทคคอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดรวมพีดีเอเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน ประเทศไทยมีปริมาณการใช้พีดีเอสำหรับรับส่งอีเมล์ บนพื้นฐานระบบปฏิบัติการวินโดวน์ โมบายสูงเป็นอันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน คาดปีหน้าตลาดจะเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 50% จาก 37% ในปีนี้

อัสซุส มีนโยบายพัฒนานวัตกรรมใหม่ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้แนวคิด “อัสซุส โมบิลิตี้” ตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้พีดีเอโดยเฉพาะ อาทิ นักธุรกิจ คนไอที และนักศึกษาด้านวิศวกรรม โดยกระจายสินค้าผ่านช่องทางจัดจำหน่ายตามร้านค้าโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้ในต่างจังหวัด ตามหัวเมืองใหญ่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ปัจจุบันอัสซุสทำตลาดพีดีเอโดยกระจายสินค้าผ่าน บริษัท ดีคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรายแรกของกลุ่มพีดีเอ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับคู่ค้ารายอื่นๆ ที่เหมาะสม หลังจากเฟสแรก อัสซุสนำเครื่องเข้าทดลองตลาดก่อนจำนวน 600 เครื่อง และได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้าในเมืองไทย “แผนการตลาดของอัสซุสเน้นสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยดึงดาราวัยรุ่นมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใช้งานพีดีเอโฟน พร้อมกับจัดทำสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์และหนังสือ รวมถึงจัดฝึกอบรมให้กับผู้ขายหน้าร้าน เพื่อแนะนำลูกค้า ชี้ให้เห็นถึงคุณภาพและดีไซน์ที่โดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่ง” พรเทพ กล่าว

อัสซุส เตรียมนำเข้าผลิตภัณฑ์อีก 2 ตัวมาแนะนำ คือ R1F แท็ปเล็ตพีซี และ R2H UMPC: Ultra Mobile PC คาดว่าทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้จะวางจำหน่ายในไทยเร็วนี้ หลังจากที่อัสซุสเคยเปิดตัวโน้ตบุ๊คเฉลิมพระเกียรติฉลองศิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จฯ พระเจ้าอยู่หัว และโน้ตบุ๊คอัสซุส ลัมเบอกินีมาแล้วก่อนหน้านี้

ล่าสุด อัสซุสเปิดตัว “ASUS P525” พีดีเอโฟนรุ่นใหม่ ชูจุดเด่นระบบควอดแบนด์ (จีเอสเอ็ม 850/900/1800/1900 MHz)) จอสัมผัสแบบทัชสกรีน มีระบบจดจำลายมือเขียน ทำงานบนโอเอส ไมโครซอฟท์ วินโดว์ โมบาย 5.0 พร้อมกล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ได้กว่า1,000 รายชื่อ ในราคา 27,500 บาท โดยตั้งยอดขายภายใน ครึ่งปีหลังนี้ จำนวน 4,000 เครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 5%

ดูพอดหวังครองเบอร์หนึ่งในเอเชีย
ณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ดูพอด อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) 
มองการแข่งขันตลาดพีดีเอโฟนในไทยว่า มีการแข่งขันมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ใช้มีมากขึ้น พีดีเอรุ่นใหม่จะออกมาในแนวแฟชั่น รูปแบบเพรียวบางสวยงามพร้อมสีสันสดใส โดยอัตราการเติบโตรวมนั้นจะอยู่กลุ่มเดียวกับตลาดมือถือเฉลี่ยเดือนละ 5 แสนเครื่อง เป็นตัวเลขของพีดีเอโฟนและสมาร์ทโฟนประมาณ 2% หรือ 1 หมื่นเครื่อง

ทั้งนี้ดูพอดจะใช้กลยุทธ์ปรับสินค้าให้เข้ากับคนไทย ซึ่งมีพาร์ทเนอร์ HTC เป็นผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ของโลกมาร่วมถือหุ้น ซึ่งมั่นใจว่าได้เปรียบผู้ผลิตรายอื่นแน่นอน โดยวางเป้าการเติบโตไว้ที่ 30% และจะมีสินค้าใหม่ๆ ออกมาอีก 3-4 รุ่น

“การที่ HTC มาร่วมลงทุนกับดูพอดเอเชีย ยังคงรับผลิตสินค้าให้ยี่ห้ออื่นเช่นเดิม เพียงแต่ไม่ผลิตให้กับสินค้าที่มาวางจำหน่ายในเอเชีย ซึ่งเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่อาจมีผลทางการตลาดได้ โดยฝ่าย HTCจะได้เปรียบที่ได้รู้เทคโนโลยีของผู้ว่าจ้าง”

สำหรับการทำตลาดในไทยนั้น ณัฐวัชร์ ย้ำว่า จะมีกิจกรรมโปรโมชั่นใหม่ผ่านสื่อในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมทั้งสนับสนุนตัวแทนจัดจำหน่าย เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายหลักรายเดียวที่กระจายสินค้าดูพอดทุกรุ่นในไทย และขยายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่ายอื่นมากขึ้นโดยผ่านศูนย์จำหน่ายมือถือ เช่น เจมาร์ท บิสเทล

ดูพอดวางงบการตลาดในครึ่งปีหลัง 3-5 %ของยอดขาย ในไตรมาสที่ 3-4 มีเป้ายอดขายที่ 10 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีตัวเลขเป็นที่น่าพอใจ ด้านเทคโนโลยี 3Gของ ในหลายประเทศมีใช้หมดแล้วแต่ของไทยยังไม่รู้อนาคต ทั้งนี้ในการผลิตสินค้าดูพอดเป็นการผลิตแล้วกระจายทั่วเอเชีย ดังนั้นดูพอดในไทยจึงเป็นสินค้าที่รองรับเทคโนโลยี 3G ด้วย

ล่าสุด ดูพอดใช้แนวคิด อิสระการสื่อสารไร้ขีดจำกัด โดยเปิดตัว ดูพอด 838Pro ที่ใช้มีคุณสมบัติการเชื่อมต่อเทคโนโลยีไร้สาย รองรับเทคโนโลยี 3G ที่จะมาในอนาคต และไว-ไฟ เวอร์ชั่น บี/จี รองรับ GPRS, EDGE และบลูธูท 2.0 เป็นรุ่นแรกที่มีคีย์บอร์ดสไลด์ข้าง และมีโปรแกรมเน็ทวิทซาจ ช่วยการติดตั้งค่าการเชื่อมต่อ GPRS แบบอัตโนมัติ พร้อมด้วยกล้อง 2 ล้านพิกเซลที่มีมาร์โคโฟโต้สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้

นอกจากนี้ มี PenPower WorldCard Mobility โปรแกรมสำหรับถ่ายภาพนามบัตรต่างๆ โดยสแกนอ่านข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษ แล้วจัดเก็บรายละเอียดไว้เป็นบัญชีรายชื่อติดต่อ โดยไม่ต้องเสียเวลาป้อนข้อมูล พร้อมกันนี้ยังได้พัฒนาโปรแกรมการใช้งานภาษาไทยพร้อมคีย์บอร์ดภาษาไทยด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *