อี ริคสัน ชูธง ความสำเร็จ ซื้อ มาร์โคนี พร้อมขึ้นแท่น ผู้นำโครงข่ายพื้นฐาน

อีริคสัน ประกาศความสำเร็จในการเข้าถือครองกิจการของ มาร์โคนี ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจโ ครงข่ายส่งผ่านข้อมูล (transmission) ของอีริคสัน อันประกอบด้วยโครงข่าย บรอดแบนด์ และ IP

มร . ฮันส์ คาร์ลสัน ประธานและผู้จัดการ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การที่อีริคสันเข้าถือครอง กิจการของมาร์โคนี จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจโครงข่ายส่งผ่านข้อมูล (transmission) ของอีริคสัน อันประกอบด้วยโครงข่าย บรอดแบนด์ และ IP

ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2548 อีริคสัน ได้เข้าถือครองทรัพย์สินประมาณร้อยละ 75 ที่เกิดจากการดำเนินการธุรกิจของมาร์โคนี อันประกอบด้วย ธุรกิจ Optical networking , ธุรกิจโครงข่ายบรอดแบนด์และโครงข่ายคลื่นวิทยุพื้นฐาน (Broadband and Fixed radio access network), ธุรกิจซอร์ฟสวิทซ์ (Softswitch), ธุรกิจอุปกรณ์และบริการโครงข่ายข้อมูล กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านโทรคมนาคม เครื่องหมายการค้า รวมตลอดถึงชื่อและตราผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ

โดยการเข้าถือครองดังกล่าวทำให้อีริคสัน ซึ่งเป็นผู้จัดหาบริการด้านโครงข่าย สามารถมุ่งเน้นให้บริการลูกค้าในธุรกิจ โทรคมนาคมและองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ด้วยการจัดหาบริการสนับสนุนได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น รวมถึงในขณะนี้ อีริคสัน สามารถช่วยผู้ให้บริการโทรคมนาคม หรือ โอเปอเรเตอร์ เปิดให้โครงการ IP แห่งอนาคตได้

“ธุรกิจของอีริคสันมีความแข็งแกร่งในเชิงกลยุทธ์ และเมื่อบริการโทรคมนาคมพื้นฐาน และเคลื่อนที่ผนวกรวมเข้าด้วยกัน แล้วลูกค้าของเรา จะได้รับประโยชน์ จากการควบรวมธุรกิจนี้อย่างมาก”

โดยเฉพาะโครงข่ายบรอดแบนด์ทั้งแบบเคลื่อนที่พื้นฐานกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย โดยอีริคสันเป็นผู้นำในการสร้างโครงข่ายบรอดแบนด์ เคลื่อนที่ และยังมีความแข็งแกร่ง ในเทคโนโลยีโครงข่ายพื้นฐานใหม่ ซึ่งการยกระดับโครงข่ายปัจจุบัน ไปเป็นโครงข่ายบรอดแบนด์จะทำให้สามารถรองรับการใช้งานด้านข้อมูล ได้เพิ่มขึ้น อีกมหาศาล และส่งผลให้สมรรถนะของโครงข่ายโทรคมนาคมในการส่งผ่านข้อมูลเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ การผนวกรวมธุรกิจด้านโครงข่ายพื้นฐานของอีริคสัน เข้ากับธุรกิจด้านบรอดแบนด์ ของ มาร์โคนี รวมตลอดถึง ความสำพันธ์ อันยาวนานกับลูกค้าที่เป็นธุรกิจผู้ให้บริการโครงข่ายพื้นฐานชั้นนำ จะส่งเสริมให้อีริคสันมีความแข็งแกร่ง ในตลาดยิ่งขึ้นไปอีก

โดยอีริคสันมีจุดประสงค์ที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดใหม่ ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้

รวมถึงขณะนี้ธุรกิจโทรคมนาคมกำลังเปลี่ยนแปลงอย่ารวดเร็ว กระแสการผสมผสาน (convergence) ระหว่างธุรกิจโมบาย และฟิกไลน์ เริ่มเห็นชัดเจนขึ้น มีเซอร์วิสใหม่เกิดขึ้น เช่น Broadband และ IPTV ซึ่งในส่วนของ IPTV แนวโน้มการเติบโต เพิ่มขึ้น

ดังนั้นผู้ให้บริการจะต้องมีการขยายแบนด์วิชเพื่อรองรับในเรื่องของความเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งแนวโน้มในตลาด เชื่อว่า IPTV และ Broadband จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ความต้องการของผู้ใช้จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่

เหมือนอย่างเช่น ตลาดในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโต โดยปัจจุบันมี Penetration Rate อยู่ที่ 4% และมีแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้นหากประเทศจีนโตก็จะส่งผลให้ประเทศอื่นมีการเติบโตเพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับประเทศไทยนั้นตลาดบรอดแบนด์มีการเติบโตสูงจากปี 2003 ที่มีผู้ใช้เพียง 30,000 ราย จนถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2006 มีผู้ใช้ประมาณ 503,627 ราย คาดว่าภายในสิ้นปี 2006 จะมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็น 850,000 ราย เติบโต 100%

ขณะเดียวกันจากการแข่งขันทางด้านราคาส่งผลให้ปริมาณทราฟฟิคไม่เพียงพอต่อผู้ใช้ โอเปอเรเตอร์มีการลงทุนเพิ่ม เพื่อขยายแบนด์วิชในการให้บริการรวมถึงการให้บริการ IPTV และ Broadband ซึ่งขณะนี้มีผู้ให้บริการแล้วคือ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น และบมจ. ทีโอที รวมทั้งผู้ให้บริการอื่น ๆที่ไม่ใช่ผู้ให้บริการรายใหญ่ในตลาด ด้วย ซึ่งเป็นโอกาสในการเข้าไป ทำตลาดโดยเฉพาะปีนี้เป็นที่โอเปอเรเตอร์มีการลงทุนมากกว่าปีที่ผ่านมา

“ขณะนี้กระแสการควบรวมกิจการเกิดขึ้นในหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น อัลคาเทล – ลูเซ่น หรือโนเกีย – ซีเมนส์ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ในส่วนของอีริคสันและมาร์โคนี ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ เพราะทำให้ผลิตภัณฑ์ มีความแข็งแกร่งและมีความสมบูรณ์ ”

ทางด้านรัตนะ ไกรวิเชียร รองประธานอาวุโส ฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาอีริคสันเริ่มทำธุรกิจโดยเริ่มจากฟิกไลน์หรือโทรศัพทืพื้นฐานให้กับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หรือ ทีโอทีในปัจจุบัน มานาน นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ กสท โทรคมนาคม นั่นคือ ชุมสายต่างประเทศที่เป็น อินเตอร์เนชั่นแนลเกตเวย์

สำหรับมาร์โคนีและอีริคสันเป็นพาร์ทเนอร์กันมานานในการเสนอโซลูชั่นฟิกไลน์ ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่อีริคสันไม่มี และใช้อุปกรณ์ของมาร์โคนีในการประมูลงานมานาน ซึ่งวันนี้ธุรกิจฟิกไลน์ยังจะเป็นส่วนสำคัญ ของธุรกิจอีริสัน ในประเทศไทย ดังนั้นการร่วมมือมาร์โคนีจะช่วยเพิ่มจุดแข็ง ให้ผลิตภัณฑ์ของอีริคสัน มีความสมบูรณ์มากขึ้นในส่วนที่ขาด และต้องการใช้

เกรียงไกร นิศยันต์ อดีตประธาน บริษัท มาร์โคนี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แต่เดิมอีริคสันเป็นพันธมิตร กับมาร์โคนี่ มาเป็นเวลานานและมีมูลค่าโครงการรวมกันกว่า 700 ล้านปอนด์ โดยฐานลูกค้าหลักจะอยู่ในยุโรปถึง 80% อเมริกาเหนือ 11% ลาตินอเมริกา 3% และ ในเอเชียแปซิฟิก 6% ซึ่งลูกค้ารายใหญ่จะเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์ เช่น บริติชเทเลคอม เทลสตาร์ โวดาโฟน เป็นต้น

ขณะที่ มาร์โคนี่ ในไทย เองมีรายได้จากการดำเนินงานปีละ 4-5 ล้านเหรียญสหรัฐ …

รวมทั้งที่ผ่านมา มาร์โคนี่ ก็ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา และมีการตั้งสำนักงานสาขาในเอเชีย มีการตั้งสำนักงานใน 3 โซนหลักคือ เอเชียเหนือ ได้ได้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี ส่วนเอเชียใต้ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินเดีย อินโดนีเซีย และจีน รวมทั้งนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย

“การซื้อกิจการมาร์โคนี จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับอีริคสันในเรื่องของโปรดักส์ซึ่งทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว และไม่ซ้ำซ้อนกัน ทำให้ได้เปรียบซึ่งก่อนหน้านี้มีการเมิร์ชกัน ระหว่างซัพพลายเออร์ราย ที่มีความแตกต่าง หรือซ้ำซ้อนกัน ในส่วนของโปรดักส์ เช่น ลูเซ่นส์กับอัลคาเทล เป็นต้น”

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเมิร์ชมีมากขึ้น ได้แก่ Optical transmission, Broadband Access,Access Hub ,Microwave Radio, Softswith Network ซึ่งข้อดีคือ การให้บริการ การดูแลคนละระบบจะกลายมาเป็น End to End Solution ภายในหนึ่งเน็ตเวิร์ค ซึ่งหน่วยงานราชการ หรืองานในลักษณะของเทิร์นคีย์โซลูชั่นต้องการซัพพลายเออร์ที่ดูแลได้ครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ปัจจุบันพบว่าหน่วยงานราชการต้องการเพียงหนึ่งเน็ตเวิร์ค เพื่อการดูแลที่ง่ายสามารถรู้ได้ทันที เมื่อมีปัญหา

จะอย่างไรแล้วก่อนหน้านี้ มาร์โคนี ได้ดำเนินกิจการในประเทศไทยมานานหลายปีในนามของบอซเทเลคอม จุดกำเนิดของ มาร์โคนี้เริ่มตั้งแต่ 6 ปีที่ผ่านมา

โดยได้งาน Back bone ของ บริษัท เทเลคอมเอเชีย จำกัด ( มหาชน ) ปัจจุบันเป็น ทรูคอร์ปอเรชั่น ในโครงการ 2 ล้านเลขหมาย ซึ่ง 2 ปีที่แล้วได้ตั้งบริษัทในเมืองไทยโดยมีลูกค้าหลักเป็นโอเปอเรเตอร์ทางด้านเทเลคอม คือ ทรู, ทีโอที, กสท โทรคมฯ, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, กองบัญชาการทหารสูงสุด และกองบัญชาการทหารบก

สำหรับ อิริคสัน เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่วางอนาคตการสื่อสาร เคลื่อนที่และบรอดแบนด์เน็ทมาโดบตลอด และเป็น ผู้ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดบริษัทธุรกิจด้านการสื่อสาร ที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกด้วย การจัดหาโซลูชั่นใหม่ ๆ ให้แก่บริษัท ต่าง ๆ ในกว่า 140 ประเทศทั่วโลก จากลูกค้า 200 ราย

ส่วน บริษัท มาร์โคนี มีประวัติการดำเนินงานที่ยาวนานโดยผู้ออกแบบ ผู้ผลิต และผู้จัดหาอุปกรณ์ และบริการด้าน เทคโนโลยีสื่อสาร โทรคมนาคมและการสื่อสารข้อมูลรายใหญ่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ มาร์โคนี มีธุรกิจ และการดำเนินงานหลัก อยู่ในสหราชอาณาจักร, อิตาลี, เยอรมัน และสหรัฐอเมริกา โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *