เอไอเอส หนุนเอ็มเปย์ เน้นประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าเข้าใจบริการธุรกรรมการเงินบนมือถือส่งผลขยายฐานลูกค้า ทั้งเตรียมสร้างพันธมิตรสินเชื่อเพื่อผุดแคมเปญใหม่ ทางทรูมันนี่ เน้นเพิ่มแอพพลิเคชั่น ล่าสุดจับมือวิลล่ามาร์เก็ต คาดเพิ่มยอดผู้ใช้บริการเกิน 5 แสนรายปลายปี ด้านทัพดีแทค หันหน้าจับมือธนาคารกสิกรไทย เปิด K-mAlert เสริมความมั่นใจในการโอนเงินของลูกค้าเป็นจุดขาย
เปิดบริการการเงินบนมือถือ รับศก.ขาลง
ในอดีตโทรศัพท์มือถือมีไว้เพียงแค่การสื่อสารกัน ภายหลังเทคโนโลยีมีวิวัฒนาการรวดเร็วโทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ซึ่งใช้มากกว่าการพูดคุย ยังมีไว้เพื่อถ่ายรูป ดูหนัง ฟังเพลง รับ-ส่งอีเมล์ เป็นอุปกรณ์ส่วนตัวที่ช่วยเพิ่มสีสัน สร้างความสุขในชีวิตประจำวันของคนเราได้อย่างไม่รู้จบ
วิวัฒนาการที่รวดเร็วทำให้หลายคนคงยังไม่ทราบว่า โทรศัพท์มือถือในโลกยุคดิจิตอลนี้เป็นผู้ช่วยที่ดี
ในการจัดทำ “ธุรกรรมทางการเงิน” เราใช้มือถือชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆได้ทั้ง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือการผ่อนสินเชื่อบัตรเครดิต รวมไปถึงให้บริการเช็กยอดเงินคงเหลือในบัญชีได้อย่างชัดเจน เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้นเอง
เมื่อเทคโนโลยีทันสมัย สอดคล้องกับความการต้องของตลาดแนวใหม่ ทำให้โอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการมือถือนำมาเป็นยุทธศาสตร์ทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงเศรษฐกิจขาลงในเวลานี้ ซึ่งนอกจากเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อชำระค่าบริการแล้ว ยังสร้างความมั่นใจและ ควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี ก่อนเปิดให้บริการธุรกรรมทางการเงิน ผ่านโทรศัพท์มือถือ บริษัทที่ให้บริการจะต้องได้รับกใบอนุญาตการเปิดให้บริการจากธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เพื่อขอเปิดดำเนินกิจการธุรกิจบัตรเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้และอยู่ในกรอบของการให้บริการอย่างเป็นระบบ
เอไอเอส – เอ็มเปย์ สบช่องโตจับมือสินเชื่อ
บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส จัดขึ้นมาเพื่อให้บริการด้านธุรกรรมการเงินด้วยการชำระทางโทรศัพท์มือถือ ภายใต้การบริการที่ชื่อว่า “เอ็มเปย์” (m Pay) แม้จะเป็นรายแรกในการเปิดให้บริการ โดยมีแบ็คใหญ่อย่างเอไอเอสหนุนหลัง แต่จนกระทั้งวันนี้ ตลาดดังกล่าวก็ยังไม่ค่อยโตมากนัก เพราะผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเข้าใจถึงระบบบริการใหม่นี้
คมสัน บุพนิมิตร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด กล่าวถึงความคืบหน้าของบริการ เอ็มเปย์ ผ่าน Telecom Journal ว่า รูปแบบการให้บริการของของเอ็มเปย์ก็ไม่ต่างจากค่ายคู่แข่งสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้หมด แม้ที่ผ่านมาฐานลูกค้ายังน้อย แต่เชื่อมั่นว่าหากเราได้มีการพัฒนารูปแบบการบริการ หรือสร้างความเข้าใจใหม่ให้กับลูกค้า หรือการลดขั้นตอนการใช้งานที่ซ้ำซ้อนลง ในอนาคตก็น่าจะทำให้ฐานลูกค้าใหม่ขยายตัวมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการที่ผ่านมา ภายหลังที่เอ็มเปย์เปิดให้บริการ ทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านโทรศัพท์มือถือ 1 ปี ผู้ใช้บริการตอบรับดี โดยเฉพาะแคมเปญ m PAY 1st Anniversary ที่ได้จัดในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยลูกค้าที่ผูกบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิต ให้สิทธิพิเศษรับค่าโทรฟรี 100 นาทีนั้น ซึ่ง ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการรายใหม่ดี ทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าแอ็คทีฟ หรือผู้ที่ใช้บริการเป็นประจำ จากเดิม 3-4 หมื่นราย เพิ่มขึ้นประมาณ 1 แสนราย
“ จริง ๆ แล้วลูกค้าใหม่อาจเพิ่มขึ้นถึงหลักล้านแต่บางคนยังไม่ทราบหรือไม่เข้าใจขั้นตอนของการสมัครว่ามีวิธีการทำอย่างไร หรือบางคนสมัครเข้ามาแล้วแต่อาจปฏิบัติขั้นตอนที่ผิดพลาดจึงยกเลิกไป”
ดังนั้น เพื่อเป็นการปรับปรุงระบบการให้บริการดังกล่าว ในไตรมาส 4 นี้ เอ็มเปย์จะเน้นการให้ความรู้ระบบการให้บริการแก่ลูกค้ามากขึ้น โดยเน้นขยายสื่อประชาสัมพันธ์มากกว่าเดิม ผ่านทางทีวี วิทยุ แมกกาซีน การสปอนเซอร์สนับสนุนรายการ รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถสอบถามบริการได้โดยตรง โดยกำหนดงบเพื่อการประชาสัมพันธ์เฉพาะไตรมาส 4 นี้ ประมาณ 20 ล้านบาท
ส่วนแคมเปญ โปรโมชั่นนั้น ขณะนี้อยู่ในช่วงการเจรจาบริษัทสินเชื่อบัตรเครดิตต่าง ๆ อาทิ อิออน
เฟิร์สช้อย และซิงเกอร์ ในการผ่อนชำระผ่านทางมือถือ ซึ่งโอกาสที่จะร่วมธุรกิจทางการค้ากับบริษัทดังกล่าวเป็นไปได้สูง ซึ่งหากผลเจรจาสำเร็จ คาดว่าจะนำมาจัดเป็นแคมเปญบริการใหม่ ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้”
“สิ่งที่สร้างความมั่นใจได้ว่า ธุรกิจสินเชื่อยอมตกลงร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพราะสภาพเศรษฐกิจโดยรวมค่อนข้างจะถดถอย ในทางกลับกันตลาดดังกล่าวค่อนข้างบูม เพราะคนต้องการเครดิตมากขึ้น หากเปิดให้บริการผ่อนชำระเงินผ่านมือถือ จะสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ของเอ็มเปย์ มากขึ้น”
ทรูฯ – ทรูมันนี่ เดินหน้าหาบริการที่จับต้องได้
อติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด กล่าวว่า หัวใจหลักในการให้บริการทรูมันนี่ ในด้านธุรกรรมทางการเงิน คือการเติม จ่าย โอน ถอน และในวันนี้ทรูมันนี่สามารถตอบสนองสิ่งเหล่านั้นได้ชัดเจน
สำหรับแผนการตลาด ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปีนี้ ทรูมันนี่จะเพิ่มบริการด้านแอพพลิเคชั่นมากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค ส่วนทางด้านพันธมิตรใหม่เพื่อเสริมบริการให้กับทรูมันนี่นั้น ก็ยังคงเน้นบริการที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ ยกตัวอย่างพันธมิตรล่าสุดที่ได้จับมือกับวิลล่ามาร์เก็ต ซึ่งถือเป็นแนวทางนำร่องที่ดี เพราะผู้ใช้บริการทรูมันนี่จะได้ทราบถึงข้อมูลสิทธิพิเศษในการซื้อของหรือประมูลสินค้าทุกวัน
อย่างไรก็ดี นอกจากจะได้ความสนุกแล้ว ลูกค้ายังได้ของดี ราคาถูก พร้อมทั้งบริการหลังการขายด้วย โดยจะจัดส่งถึงบ้านภายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงอีกด้วย ฉะนั้นนอกจากบริการที่รวดเร็วแล้ว ลูกค้ายังได้รับของใหม่ที่ดีมีคุณภาพอีกด้วย และด้วยความพร้อมที่ทรูมันนี่มอบให้ลูกค้าในวันนี้ คาดว่าจะส่งผลให้สิ้นปีนี้ ยอดผู้ที่เข้ามาใช้บริการจะเกิน 5 แสนรายแน่นอน
“ การที่ลูกค้าได้เห็นและจับต้องสินค้าได้ เป็นกลยุทธ์การตลาดที่น่าจะได้รับการตอบสนองที่เร็วที่สุด และทิศทางการตลาดต่อไปก็อาจจะเพิ่มพันธมิตรทางการค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการพิจารณา และ
คงจะเน้นการให้บริการ คุณภาพสินค้าที่ซื้อขายจับต้องได้เช่นเดิม”
ดีแทค K-mAlert มั่นใจการโอนเงิน
ทางด้าน บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค แม้จะไม่ได้เปิดให้บริการด้านการจัดทำธุรกรรมทางการเงินครบวงจรอย่างทาง เอ็มเปย์ และทรูมันนี่ แต่ก็เล็งเห็นโอกาสทางการตลาดในการเข้ามาเป็นผู้ช่วยทางด้านการเงินในรูปแบบใหม่ผู้บริโภคเช่นกัน โดยได้ผนึกพันธมิตรใหม่คือ ธนาคารกสิกรไทย เปิดให้บริการ K-mAlert ซึ่งเป็นบริการยืนยันการโอนเงินผ่านเอสเอ็มเอส เป็นจุดขายที่ได้รับการตอบดีเช่นกัน
สันติ เมธาวิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้า บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ( ดีแทค) กล่าวถึงการให้บริการ K-mAlert ว่า หลังจากที่เปิดตัวพร้อมให้บริการ ขณะนี้ลูกค้าให้การตอบรับดีพอสมควร เพราะลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการมีความมั่นใจการโอนเงินมากขึ้นว่าถึงผู้รับปลายทางจริง
ในช่วงแรกนี้จะเปิดให้บริการเฉพาะธนาคารกสิกรไทยก่อนเป็นธนาคารแรก ในการนำระบบบริการยืนยันการโอนเงินผ่านเอเอ็มเอส มาใช้ บริการดังกล่าวสามารถรองรับได้ทั้งบัตรเอทีเอ็ม และบัตรเดบิตของธนาคารกสิกรไทยและของธนาคารอื่น ด้วยการโอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยที่มีทั่วประเทศกว่า 2 พันเครื่อง ที่ได้รับการพัฒนาอยู่บนระบบ Corporate SMS ของดีแทค
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ลูกค้าได้รับจากการเข้ามาใช้บริการด้วยการโอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มกสิกรไทย เมื่อทำรายการโอนเสร็จแล้ว เครื่องจะสอบถามว่าต้องการแจ้งผลการโอนผ่านระบบเอสเอ็มเอส ให้ผู้รับปลายทางหรือไม่ หากต้องการเครื่องจะให้กรอกข้อมูลเลขหมายปลายทาง หลังจากนั้นระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคารก็จะส่งข้อความแจ้งยอดการโอนไปยังผู้รับโอนทันที เชื่อมั่นว่าการให้บริการดังกล่าวจะสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการทั้งสองฝ่าย และคาดว่าหากผลตอบรับดีต่อไปอาจจะเพิ่มเครือข่ายให้บริการของธนาคารมากกว่านี้
“ การให้บริการดังกล่าว สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงนี้ เนื่องจากผู้บริโภคสามารถทราบยอดโอนทันทีทั้งผู้ส่งและผู้รับปลายทาง เป็นช่องทางการบริการที่คาดว่าลูกค้าจะได้รับความพึงพอใจและเข้ามาใช้บริการดังกล่าวมากขึ้นอีก ”
แม้การให้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือ ยังเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับคนไทยในปัจจุบัน แต่ในไม่ช้าอาจจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นของชีวิตเราเช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือและบัตรเอทีเอ็ม ที่ทำให้ทั้งคนรุ่นใหม่และคนยุคเก่า ต่างให้การยอมรับ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตโดยปริยาย